ประเด็นร้อน

เด้งฟ้าผ่า นายอำเภอสัตหีบ ส่อโยงทุจริต ซื้อปืนพกสั้น พันกระบอก

โดย ACT โพสเมื่อ May 17,2018

- - ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ - -

 

สั่งเด้ง นอภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เซ่นซื้อปืนหลวง ส่อทุจริตนับพันกระบอกหวั่นหลุดขายส่งข้ามชาติ "บิ๊กป๊อก" รับสั่งย้ายจริง แจงสลับเก้าอี้นอภ.สอย ดาว จ.จันทบุรี พร้อมตั้งคณะกรรมการ ลุยหาหลักฐาน พัวพันปลอมแปลงเอกสารทางราชการแฉมีข้าราชการระดับสูง จับมือเอเย่นต์ค้าอาวุธ เล่นแอบซื้อขายนอกระบบ

 

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 พ.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวเรื่องการปลอมแปลงเอกสารราชการ เพื่อยื่นขอซื้ออาวุธปืนของทางราชการ (ปืนหลวง) ในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า เพิ่งได้รับรายงานจากนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ว่าได้สั่งให้ย้ายนายพงษ์พันธ์ ยมมาศ นายอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี แล้ว พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการไปตรวจสอบข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ว่ามีความเป็นมาอย่างไรยืนยันว่าทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย และถ้าตรวจสอบพบความไม่ชอบมาพากล จะต้องดำเนินการตามกฎหมายสำหรับโทษในการปลอมแปลงเอกสารทางราชการค่อนข้างสูงและหนักมาก และหากผิดจริงจะไม่ใช่แค่โดนลงโทษทางวินัยแต่จะถูกดำเนินคดีทางอาญาด้วย

 

ด้าน ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าได้แต่งตั้งคณะกรรมการลงไปตรวจสอบเกี่ยวกับเอกสารดังกล่าวแล้วแต่จะต้องใช้ระยะเวลาเพื่อความรอบคอบ โดยมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกรมการปกครองเป็นหัวหน้านำทีมสืบสาวถึงผู้เกี่ยวข้องร่วมกับนายอำเภอคนใหม่สำหรับนายพงษ์พันธ์ ยมมาศ นายอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี ได้สั่งย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี พร้อมโยกย้ายให้นายอนุชา อินทศร นายอำเภอสอยดาว จ.จันทบุรี มาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แทน

 

ขณะที่นายปรัตรวีร์ วิจบ ปลัดอาวุโส ฝ่ายปกครอง อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี กล่าวในฐานะหัวหน้ากลุ่มงานบริหารการปกครองว่า ไม่ทราบเหตุผลในการย้ายนายพงษ์พันธ์ อาจเป็นแค่เรื่องของความเหมาะสมส่วนเรื่องที่มีข่าวว่ามีการรวบรวมเอกสารการซื้ออาวุธปืนจำนวนมากนั้น ตนไม่สามารถให้รายละเอียดได้จริง ๆ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ และสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งเรื่องของเอกสารใบป.3 (ใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน และเครื่องกระสุนดินปืน) และ ใบ ป.4 (ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน) ได้ส่งให้กรมการปกครองไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่ามีการใช้ชื่อซื้อซ้ำกันกี่คนหรือคนละกี่กระบอก โดยมอบหมายให้นางพิกุล โสภา ปลัดอำเภอหัวหน้างาน สำนักงานอำเภอ เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการขอซื้ออาวุธปืน และคงต้องรอผลการตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง

 

ทางด้านนายอนุชา อินทศร นายอำเภอสัตหีบกล่าวว่า ส่วนตัวเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 3 วัน จึงยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นว่ามีความเป็นมาอย่างไร และคงต้องขอเวลาในการตรวจสอบก่อนส่วนเรื่องปืนขณะนี้ได้เร่งออกใบ ป.3 ให้กับผู้ขอซื้ออาวุธปืนที่ล่าช้า และค้างเก่ามาตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 125 ราย และไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมถึงได้ปล่อยให้ล่าช้าขนาดนี้ ที่สำคัญได้สั่งการไปยังข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่รับผิดชอบเรื่องการขอซื้ออาวุธปืนโดยห้ามรับเงินใต้โต๊ะ หรือเรียกร้องเงินนอกระบบเด็ดขาด เว้นแต่จะเป็นการเสียค่าธรรมเนียมตามกฎหมายกำหนดเท่านั้น

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับความไม่ชอบมาพากลการสั่งซื้ออาวุธปืนของอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี เกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนในพื้นที่หลายคนได้รับเอกสารใบแจ้งให้ไปดำเนินการทำใบป.4 ทั้งที่ไม่ได้สั่งอาวุธปืนจากทางราชการ (ปืนสวัสดิการ) โดยบางรายระบุว่าแม้ว่าตามสิทธิจะสามารถซื้อปืนใหม่ได้ในระยะเวลา 5 ปี แต่ไม่มีความจำเป็นจึงไม่ได้สิทธิ ทำให้เกรงจะถูกกล่าวหาว่าทุจริตจึงร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชา จนเกิดการตรวจสอบภายใน จึงทราบว่ามีข้าราชการระดับสูงบางคนร่วมกับนายหน้า (เอเย่นต์) ผู้จำหน่ายอาวุธปืน แอบนำรายชื่อข้าราชการผู้มีสิทธิไปสวมซื้อปืนโดยพลการทั้งในรายละเอียดยังพบว่า รายชื่อผู้ซื้อปืนบางคนถูกใช้ซื้อปืนหลายสิบกระบอก ทำให้ยอดรวมทั้งหมดสูงนับพันกระบอกถือว่าไม่ผ่านสายการบังคับบัญชา และขาดระบบคัดกรอง ที่สำคัญยังมีความกังวลว่าปืนเหล่านี้อาจถูกจำหน่ายต่อในท้องตลาดหรือถูกส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้านเป็นปืนเถื่อนถือเป็นอันตรายต่อความมั่นคง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw